หัวใจในโซ่

ฉันจ้องมองผลตรวจครรภ์ในมืออย่างตกตะลึง ฉันไม่คิดเลยว่าจะต้องมาท้องอีกครั้งหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นคราวก่อน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน

ฉันกัดเล็บตัวเองอย่างกระวนกระวายใจขณะครุ่นคิดถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไป ฉันควรจะบอกไมเคิลดีไหม ไม่ได้!! ฉันจะปล่อยให้เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในครั้งนั้นซ้ำรอยเดิมอีกไม่ได้ แค่เพียงนึกถึงภาพเหตุการณ์ครั้งก่อนตอนที่ฉันบอกเรื่องตั้งท้องกับไมเคิล มันก็ยังทำให้ฉันเสียวสันหลังวาบไม่หาย

แม้ว่าเวลาจะผ่านมาสามปีแล้ว แต่มันก็ยังคงสดใหม่ในความทรงจำของฉัน ฉันไม่อาจลืมถ้อยคำที่เชือดเฉือนใจที่เขาพูดกับฉันตอนที่ฉันบอกข่าวเรื่องการตั้งท้องของตัวเองได้เลย

"คนใบ้ที่อ่อนแอและไร้ซึ่งหมาป่าอย่างแกไม่มีวันให้กำเนิดลูกของฉันได้หรอก ว่าที่อัลฟ่าคนต่อไปของฝูงเราน่ะ!!" ฉันยังจำแววตาอันมืดมนของเขาได้ดี ตอนที่เขามองจ้องมาที่ฉัน... ไม่สิ ต้องเรียกว่าถลึงตาใส่ราวกับว่าฉันเป็นอาชญากร

ในสายตาของเขา ฉันเป็นอาชญากรจริงๆ นั่นแหละ ฉันคือเหตุผลที่ทำให้ชีวิตของเขาพังพินาศ ถ้าฉันไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ เขาก็คงไม่ต้องถูกจับคู่กับโอเมก้าที่ทั้งอ่อนแอและเป็นใบ้อย่างฉัน เขาคงได้แต่งงานอย่างมีความสุขกับพริสก้า คนรักของเขาไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้คบหากันอย่างมีความสุขหรอกนะ

แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนขอให้เทพีจันทราจับคู่เราให้เป็นคู่แห่งโชคชะตาสักหน่อย มันไม่ใช่ความผิดของฉันที่ต้องสูญเสียความทรงจำ เสียง และหมาป่าของตัวเองไปตั้งแต่อายุยังน้อย

แม้ว่าเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคนรักของเขา เขาก็ยังคงเกลียดชังฉันเข้ากระดูกดำ แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเป็นภรรยาที่ดีให้เขา เขาก็ยังคงปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นขยะชิ้นหนึ่ง เราไม่ได้เป็นแบบนี้กันมาตั้งแต่แรก เมื่อก่อนเขาเคยดีกับฉันมากกว่านี้เยอะ ฉันยังจำวันที่ย่างเท้าเข้ามาในฝูงนี้ครั้งแรกได้ดี แม้ว่ามันจะนานมากแล้วก็ตาม

ตอนนั้นฉันอายุแค่แปดขวบและเป็นหมาป่าผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายของฝูง พ่อของไมเคิลเป็นคนรับฉันมาเลี้ยงหลังจากที่ฝูงของฉันถูกโจมตีโดยพวกหมาป่าไร้ฝูงอย่างกะทันหัน ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้ฉันต้องสูญเสียครอบครัว เพื่อนร่วมฝูง เสียง และหมาป่าของฉันไป

พ่อของไมเคิลกับพ่อของฉันเป็นเพื่อนรักกัน และนั่นคือเหตุผลที่เขารับฉันเข้ามาดูแล ครอบครัวครอว์ฟอร์ดต้อนรับฉันในทันที... ก็ ยกเว้นโจต้าไว้คนหนึ่ง ถึงแม้ฉันจะถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอเพราะเป็นใบ้และไร้ซึ่งหมาป่า แต่ฉันก็สามารถทนทุกอย่างมาได้ก็เพราะไมเคิล

เขาดูแลฉันเป็นอย่างดีเหมือนฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ และคอยปกป้องฉันจากทุกคนที่มารังแก รวมไปถึงโจต้า น้องสาวของเขาเอง แต่ทุกอย่างก็จบสิ้นลงเมื่อฉันอายุครบสิบแปดและได้ค้นพบว่าเขาคือคู่แห่งโชคชะตาของฉัน

"ทำไมต้องเป็นแกด้วยวะ ให้ตายสิ ทุกอย่างพังหมด!" เขาคำรามใส่ฉัน ดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย แทนที่จะรู้สึกยินดีปรีดา ไมเคิลกลับรู้สึกเพียงความโกรธเกรี้ยวเมื่อเขารับรู้ถึงสายสัมพันธ์ของเราเป็นครั้งแรก

ถ้อยคำที่เชือดเฉือนของเขาแทงทะลุใจฉันราวกับมีดนับล้านเล่ม ฉันรักไมเคิลมาตลอดตั้งแต่แรกเห็น ฉันจึงดีใจมากที่ได้เป็นคู่แห่งโชคชะตาของเขา แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการมันเลย

ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใดเลยนอกจากว่าเขากำลังคบหาดูใจอย่างลึกซึ้งอยู่กับพริสก้าคนรักของเขา ผู้เป็นลูกสาวของเบต้า ทั้งสวยและมีความสามารถ เหนือกว่าฉันในทุกๆ ด้านอย่างสิ้นเชิง แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พริสก้าก็คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับตำแหน่งลูน่า

ดังนั้นฉันจึงไม่ได้โทษไมเคิล และฉันก็เตรียมใจไว้แล้วด้วยซ้ำว่าจะถูกปฏิเสธ ทว่า เราสองคนไม่คาดคิดเลยว่าพ่อของไมเคิลจะสั่งเสียไว้เป็นความปรารถนาสุดท้ายว่า หากไมเคิลต้องการขึ้นเป็นอัลฟ่า เขาจะต้องแต่งงานกับฉันในฐานะลูน่าของเขา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของความเกลียดชังที่เขามีต่อฉันอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ตลอดห้าปีที่แต่งงานกับเขา ฉันได้แต่หวังว่าในที่สุดเขาจะใจอ่อนและรักฉันอย่างที่ควรจะเป็น แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นได้เพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ในฐานะลูน่าผู้เป็นใบ้ ฉันเป็นเพียงแค่ต้นเหตุแห่งความอับอายของไมเคิล ดังนั้นเขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฉันเป็นเหมือนอากาศธาตุในสายตาของสาธารณชน

ทุกคนรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าฉันคือภรรยาของเขา ด้วยเหตุนั้น ฉันจึงไม่เคยได้รับความเคารพอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อเห็นว่าผู้ที่เคยปกป้องฉันได้หันหลังให้ ฉันจึงกลายเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งและคำดูถูกถากถางจากทุกคน แม้กระทั่งจากเหล่าคนรับใช้

ฉันยังคงจมดิ่งอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก ด้วยความกลัวว่าจะถูกจับได้พร้อมกับที่ตรวจครรภ์ ฉันจึงรีบซ่อนมันไว้ในลิ้นชักแล้วออกมาจากตู้เสื้อผ้าในห้องที่ฉันเข้าไปขังตัวเองไว้ก่อนหน้านี้

ในห้องนั้น ฉันต้องเผชิญหน้ากับไมเคิลที่กำลังเดินโซซัดโซเซ ใบหน้าของเขาแดงก่ำราวกับว่าเขาไปดื่มมา เมื่อฉันสังเกตเห็นว่าเขาเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ ฉันจึงรีบเข้าไปประคองเขา

ขณะที่ฉันโอบอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน ความรู้สึกซาบซ่านก็แล่นผ่านกระดูกสันหลัง และส่วนลึกของฉันก็เปียกชื้นขึ้นมาทันที ฉันรู้สึกละอายใจ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถควบคุมได้เมื่อเมทคู่ชะตาของฉันอยู่ใกล้ขนาดนี้ ฉันถูกสร้างมาเพื่อเขา แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ฉันคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้

ไมเคิลรังเกียจสัมผัสของฉันเสมอ เขาจะไม่ยอมให้ฉันแตะต้องตัวเลยตอนที่เขามีสติครบถ้วน ฉันลากร่างหนักอึ้งของเขาไปวางลงบนเตียง เขาหนักมากจนฉันล้มทับลงบนตัวเขา

เมื่อตระหนักว่าเราอยู่ใกล้ชิดกันมาก ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้องก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนหรือเปล่าที่ยิ่งทำให้ฉันโหยหาช่วงเวลาที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของเขามากยิ่งขึ้น

ฉันอยากให้สักวันหนึ่งเขาจะยอมรับฉันในที่สุด จูบฉัน และอ้างสิทธิ์ในตัวฉันอย่างที่ฉันฝันไว้ ทว่ารอยแดงบนลำคอของเขาก็ปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ราวกับถูกน้ำเย็นราดลงบนหัว

มันคือรอยลิปสติก และมีเพียงคนเดียวที่จะกล้าพอที่จะทิ้งรอยแบบนี้ไว้บนตัวเขา เขาไปดื่มกับพริสก้ามาอีกแล้ว พวกเขาจะทำอะไรอย่างอื่นด้วยกันอีกบ้างล่ะ

ฉันไม่อยากปล่อยให้จินตนาการเตลิดไปไกลเพราะมันจะยิ่งทำร้ายตัวเอง ฉันจึงสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปพร้อมกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ ดั่งภรรยาที่ดี ฉันจัดท่าให้เขานอนดีๆ บนเตียงและถอดรองเท้าให้เขา

ฉันพยายามจะยื่นแก้วน้ำให้เขาเพื่อช่วยให้เขาสร่างเมาขึ้นมาบ้าง แต่เขากลับลุกขึ้นนั่งและผลักฉันออกไปอย่างแรง ทำให้น้ำหกใส่เสื้อผ้าของฉันจนเปียกไปหมด

ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจขณะมองดูกองน้ำที่นองอยู่บนพื้น ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ และกำลังจะหยิบแก้วที่ตกอยู่ขึ้นมา แต่ทันใดนั้นเขาก็จับมือฉันไว้

ฉันตกใจจนตัวแข็งทื่อ สงสัยว่าทำไมเขาถึงเป็นฝ่ายเริ่มจับมือฉันก่อน แต่แล้วเขาก็พลันดึงฉันเข้าไปหา ทำให้ฉันต้องนั่งลงบนตักของเขา เกิดอะไรขึ้นเนี่ย??

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา สังเกตเห็นแววตาสีแดงฉานที่คุ้นเคย ฉันรู้ว่ามันเป็นเพราะพันธะคู่เมทของเรากำลังทำงาน เมื่อมองตามสายตาของเขา ฉันก็ตระหนักได้ว่าน้ำที่หกใส่ทำให้ชุดนอนของฉันเปียกแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนโค้งเว้า

ฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดและอยากจะลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เขากลับบีบคางของฉันอย่างแรงราวกับว่าเขากำลังถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น และประทับจูบที่ลึกซึ้งแต่เจ็บปวดลงบนริมฝีปากของฉัน

เขาไม่สนใจว่ากำลังทำให้ฉันเจ็บ และยังคงขบกัดริมฝีปากล่างของฉันราวกับต้องการจะฉีกมันให้ขาด เมื่อเขาพอใจแล้ว เขาก็ผลักฉันลงบนเตียงและเริ่มฉีกกระชากเสื้อผ้าของฉันออก

ขณะที่ร่างกายของฉันเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างเขา เขาจู่โจมร่างกายที่เปราะบางของฉันด้วยจูบและการกัดที่ล้ำลึกและเจ็บปวด หลังจากนั้น เขาก็ถอดเข็มขัดและกางเกงออก แล้วสอดใส่ความเป็นชายทั้งหมดของเขาเข้ามาในตัวฉันอย่างรุนแรง

ไมเคิลเป็นฝ่ายควบคุมเสมอ และฉันก็เป็นฝ่ายที่ต้องทนทุกข์อย่างเงียบๆ ในบทรักของเรา แต่ครั้งนี้ ชั่วขณะหนึ่งฉันอยากจะขัดขืนบ้างเพราะกลัวว่าลูกในท้องจะไม่ปลอดภัย ทว่าการกระทำนั้นกลับไปปลุกเร้าความปรารถนาที่จะเอาชนะของเขา และเขาก็กระแทกกระทั้นฉันรุนแรงยิ่งขึ้น

ฉันหวังเหลือเกินว่าตัวเองจะพูดได้ เขาจะได้รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร แต่เมื่อไม่มีทั้งเสียงและหมาป่า ฉันจึงทำได้เพียงเกาะเกี่ยวเขาไว้และขยับเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของเขา มอบสิ่งที่เมทและสามีของฉันต้องการ

บทรักอันดุเดือดและยาวนานดำเนินไปจนถึงรุ่งสาง ในที่สุดเขาก็ปล่อยฉันไปหลังจากที่เขาปลดปล่อยเข้ามาในตัวฉันหลายต่อหลายครั้ง เขาลุกขึ้นสวมกางเกงและจัดเข็มขัดให้เข้าที่

แววตาของเขากลับมาเป็นปกติสุขุมอีกครั้ง

"เพียงเพราะวันนี้ฉันนอนเตียงเดียวกับเธอ ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมรับเธอในฐานะลูน่าของฉัน"

หัวใจของฉันบีบรัดด้วยความเจ็บปวด แต่ลำคอของฉันกลับไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้

"พริสก้าจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจฉันเสมอ อย่าได้ลืมเป็นอันขาด!!"

เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก ส่งสายตาเย็นชามาให้ฉันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงมาเมื่อฉันได้ยินเสียงประตูปิดดังปัง

ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจและทำรุนแรงกับฉันแบบนี้ และมันก็คงจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่มันก็ยังคงทำร้ายฉันอย่างแสนสาหัสอยู่ดี

ฉันขดตัวด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว น้ำตาไหลพรากลงมาอาบใบหน้า ทำไมเรื่องทั้งหมดนี้ต้องมาเกิดกับฉันด้วย? ฉันไม่คู่ควรกับความรักเลยเหรอ เพียงเพราะฉันเป็นใบ้และไม่มีหมาป่า?

ฉันก้มลงมองหน้าท้องของตัวเองและกุมมันไว้อย่างแผ่วเบา ตอนนี้ฉันตั้งท้องลูกของเขาอีกครั้งแล้ว ฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?

บทถัดไป